พื้นที่โฆษณา

Maybank ชี้ Fixed Income มาแรง – หุ้น Quality Growth ยังครองแชมป์ตลาดทุน

ข่าวการเงิน - Money News

แชร์หน้านี้

  • 17 พ.ค. 66
  • 15.8K
พื้นที่โฆษณา

Maybank ชี้ Fixed Income มาแรง – หุ้น Quality Growth ยังครองแชมป์ตลาดทุน
เจาะสไตล์บริหารพอร์ตนักลงทุนไทย เชื่อมือกูรูระดับโลก-ประสบการณ์สูง

เมย์แบงก์ ส่งสัญญาณทิศทางการลงทุนทรงตัว แต่สามารถเขย่าตลาดซื้อขายด้วยแรงบวกมากมาย ทั้งอัตราดอกเบี้ยคงที่ จีนเปิดประเทศ และเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว พร้อมแนะนำนักลงทุนแบ่งสัดส่วนลงทุนกว่าครึ่งไปที่ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล และกลุ่มสินทรัพย์ธุรกิจใหญ่เติบโตอย่างมีคุณภาพ และชี้เป้าพฤติกรรมนักลงทุน ยังคงเชื่อมั่นในบริษัทหลักทรัพย์ที่มีพันธมิตรแข็งแกร่งระดับโลก ซึ่งหลังจากประกาศจับมือกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง BNY Mellon ทำให้เมย์แบงก์สามารถส่งต่อกลยุทธ์บริหารพอร์ตด้วยประสบการณ์และเครื่องมือสนับสนุนการลงทุน โดยคำนึงถึงเป้าหมายของนักลงทุนเป็นสำคัญ และยังเป็นฐานกำลังที่มีศักยภาพสูงรองรับแผนงานจัดการกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund License) ภายในปี 2566 นี้

จากประสบการณ์ดูแลนักลงทุนทั่วโลกในมูลค่าสินทรัพย์กว่า 2.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐในมือ... คาร์เรน ชาง Head of Asia ex Japan Client Solutions แห่ง BNY Mellon ให้ความเห็นถึงสถานการณ์การลงทุนในปีนี้ยังทรงตัว โดยคาดการณ์ว่าแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยของ FED น่าจะหยุดลงแล้ว และยังพบว่าที่ผ่านมานักลงทุนหันมาซื้อพันธบัตรมากขึ้นและได้กำไรจากตราสารหนี้ (Bond) ส่วนภาพรวมของการลงทุนในหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยปรับฐานอยู่ในทิศทางเดียวกันในหลายประเทศในโลก ในขณะที่การลงทุนในค่าเงินนั้น พบว่าส่วนต่างของสกุลเงินต่างๆ มีความใกล้เคียงกัน แต่พบว่าสกุลเงินยุโรปถูกกว่า จึงทำให้เห็นโอกาสลงทุนมากกว่า

สำหรับความเสี่ยงหรือปัจจัยที่อาจกระทบกับการลงทุนนั้น ผู้เชี่ยวชาญจาก BNY Mellon เผยว่าปัจจัยภายนอกในต่างประเทศ อย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจมีผลอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าเป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าและรับมือได้อยู่แล้ว แต่อยากให้นักลงทุนจับตาการประกาศอัตราเงินเฟ้อของ FED ตลอดจนคว้าโอกาสจากตลาดจีน ซึ่งเชื่อว่าเมื่อจีนเปิดประเทศ จะมีอิทธิพลและเอื้อประโยชน์ต่อเอเชียทั้งหมด ซึ่งพิจารณาได้จากการปริมาณนักท่องเที่ยวจีนที่ออกเดินทางนอกประเทศมากขึ้น ตลอดจนพฤติกรรมคนจีนมีเงินออมสูง จึงมีกำลังซื้อสูงด้วยเช่นกัน บวกกับการสานต่ออำนาจบริหารประเทศของสีจิ้นผิง ทำให้นโยบายต่างๆ ของจีนจะมีความต่อเนื่อง เกิดเสถียรภาพในการลงทุน

ส่วนข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนนั้น คาร์เรน ชาง เชื่อว่านักลงทุนจะมีโอกาสทำกำไรจากสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย หรือการลงทุนแบบไม่เสี่ยงมากนัก อย่าง Fixed Income ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล ยกตัวอย่าง ตราสารหนี้ High Yield income ซึ่งออกโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยแนะนำนักลงทุนควรถือครองในระยะยาวเพื่อกระจายความเสี่ยง ตลอดจนหุ้นที่มี Quality Growth หรือเป็นบริษัทใหญ่ที่เติบโตอย่างมีคุณภาพ และสถานะการเงินที่แข็งแรง รวมทั้งพวกกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Tech) แต่ไม่แนะนำหุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร เพราะมีความเสี่ยงสูงเกินไป

โดยแนะนำสัดส่วนในการลงทุนที่เหมาะสมนั้นควรอยู่ที่ Fixed Income 50-60 % และหุ้น 40-50% ซึ่งควรบริหารพอร์ตด้วยการใช้โอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด พร้อมเฝ้าระวังและคอยอัพเดทสถานการณ์หรือเหตุการณ์เกินกว่าที่คาดคิด (Event Risk) เพื่อปรับเปลี่ยนพอร์ตของนักลงทุนให้เหมาะสม โดยสามารถสลับสับเปลี่ยนการลงทุนภายในพอร์ตได้อย่างอิสระ แต่แนะนำว่าควรรักษาสัดส่วนประเภทการลงทุนไว้ตามเดิม

ด้านการลงทุนต่างประเทศนั้น กูรูจากบีเอ็นวาย เมลลอน มองว่าตลาดสหรัฐและญี่ปุ่น มีความน่าสนใจ แต่ไม่แนะนำให้พิจารณาที่ประเทศเท่านั้น เพราะนักลงทุนคสรพิจารณาจาก Core Business เป็นหลักมากกว่า ส่วนตลาดยุโรปยังมีความผันผวน โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารยุโรปที่ไม่เข้มแข็ง ตลอดจนนโยบายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ไม่เอื้อให้นักลงทุนมั่นใจ

กรณีการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก อาทิ การลงทุนในทองคำและสกุลเงินดิจิทัล ยังมีความผันผวนและกฎหมายไม่แน่นอน ไม่มีงบกระแสเงินสดให้วิเคราะห์อย่างชัดเจน แต่ก็ยังสามารถลงทุนได้ในสัดส่วน 15% อาจจะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ ในขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจในเงื่อนไขและตัวแปรต่างๆ พร้อมพิจารณาจากระยะเวลาในการถือครอง และเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง ตลอดจนรับมือกับมุมมองทางการเงินอย่างรอบด้านด้วย

ทั้งนี้ หากวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของนักลงทุนในปัจจุบัน อภิญญา องค์คุณารักษ์ CFA CAIA กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นเสริมว่า นักลงทุนมักเลือกลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการวางแผนการลงทุนเข้ามาช่วยจัดพอร์ตลงทุนในระยะยาว รวมทั้งมองหาเครื่องมือในการช่วยวิเคราะห์เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และตอบสนองความต้องการลงทุนในตลาดทุนต่างประเทศ ซึ่งการลงทุนผ่านทีมที่ปรึกษานักลงทุนระดับมืออาชีพที่เข้าใจในตลาดแต่ละประเทศจึงมีความสำคัญอย่างมาก

และเพื่อให้นักลงทุนสามารถทำกำไรและบรรลุเป้าหมายทางการเงินอย่างที่ต้องการ เมย์แบงก์จึงอาศัยประสบการณ์กว่า 50 ปี ในการดูแลพอร์ตลงทุนรวมสินทรัพย์กว่า 1.7-1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สร้างผลตอบแทนไปแล้วกว่า 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 9.9 แสนล้านบาทของ BNY Mellon โดยมุ่งหวังสร้างทางเลือก (Option) ลงทุนทั่วโลกผ่านโมเดลพอร์ตการลงทุนที่เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนระยะยาวรวมทั้งหมด 10 พอร์ต แบ่งเป็นพอร์ตลงทุนที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน 5 พอร์ต และพอร์ตลงทุนที่วางแผนตามเป้าหมายของนักลงทุนอีก 5 พอร์ต เริ่มต้นเงินลงทุนที่ 1 ล้านบาทขึ้นไป

“เมย์แบงก์และ บีเอ็นวาย เมลลอน พร้อมใช้เครื่องมือที่หลากหลายเพื่อสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนไทย เลือกลงทุนในกองทุนต่างประเทศ หุ้น และตราสารหนี้ บนพื้นฐานความเสี่ยงที่รับได้และให้เป็นไปตามเป้าหมายทางการเงิน ซึ่งการจับมือกันนอกจากจะเสิร์ฟลูกค้าได้อย่างตรงจุด และช่วยแนะนำแผนการลงทุนที่หลากหลายให้กับลูกค้านักลงทุนแล้ว ยังช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งของเมย์แบงก์ในการ Investment Firm ที่สามาถตอบโจทย์ครบจบในที่เดียว ตอกย้ำศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นรองรับบทบาท Private Fund License ภายในสิ้นปี 2566 อีกด้วย” อภิญญา กล่าวทิ้งท้าย

พื้นที่โฆษณา
ชอบหน้านี้?

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
พื้นที่โฆษณา
เว็บไซต์ ตรวจหวย ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล LotteryThai.in.th ขอแสดงความยินดี กับท่านผู้โชคดีที่ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล (ตรวจหวย) ผ่านเว็บไซต์ของเราแล้วถูกรางวัล แต่หากท่านใดที่ไม่ถูกรางวัล อย่าได้เสียใจไป งวดหน้ายังมีโอกาสให้ลุ้นอีก ก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือสังคมในการพัฒนาทางด้านต่างๆ

ข้อมูลผลรางวัลบนเว็บไซต์ของเรานั้นมีความถูกต้อง แต่ความผิดพลาดก็อาจเกิดขึ้นได้ ภายใต้สภาพแวดล้อมของการให้บริการและการใช้งานผ่านระบบ Internet ดังนั้นเพื่อให้ผลการตรวจสอบที่ถูกต้องขอให้ท่านทำการตรวจสอบข้อมูลที่สมบูรณ์จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกครั้ง ตรวจหวย หรือ ดูเรียงเบอร์ (ใบตรวจหวย)

**เว็บไซต์แห่งนี้มีจุดประสงค์เพื่อการตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น มิได้มีการขายหรือจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเองแต่อย่างใด**