เนื่องในโอกาสที่ปีหน้าเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับกาบอง ประมุขแห่งรัฐของทั้งสองประเทศจึงได้ตัดสินใจยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์รอบด้าน
หลังจากที่ผู้นำประเทศหลายท่านทั้งจากเอเชีย ยุโรป และลาตินอเมริกา ได้เดินทางมาที่กรุงปักกิ่งเพื่อสานสัมพันธ์ทางการทูต ล่าสุด ประธานาธิบดี อาลี บองโก ออนดิมบา ผู้นำกาบอง ได้ปฏิบัติภารกิจเดินทางเยือนจีนเป็นเวลา 4 วัน และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้กล่าวยกย่องว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความสัมพันธ์ระดับสูงระหว่างจีนกับกาบอง
ที่สำคัญคือเป็นการตอกย้ำว่ามิตรภาพระหว่างจีนกับกาบองยังคงแข็งแกร่งไม่เสื่อมคลาย
ประธานาธิบดี อาลี บองโก เป็นประมุขแห่งรัฐจากทวีปแอฟริกาคนแรกที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้การต้อนรับ หลังจากที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีจีนอีกสมัยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากการรายงานของกระทรวงการต่างประเทศจีน
มิตรภาพระหว่างจีนกับกาบองยังคงแข็งแกร่งนับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 49 ปีที่แล้ว และในเดือนธันวาคม 2559 ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือรอบด้าน
ทั้งสองประเทศให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของทั้งสองชาติ นอกจากนั้นยังทำงานอย่างใกล้ชิดกันในส่วนของกิจการระหว่างประเทศอีกด้วย
ประธานาธิบดี อาลี บองโก กล่าวย้ำในหลายโอกาสว่า กาบองยึดมั่นในหลักการจีนเดียวอย่างแน่วแน่มั่นคง
จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกาบองเป็นเวลา 9 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2565 การค้าทวิภาคีมีมูลค่าสูงถึง 4.55 พันล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 50.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในระหว่างการพบกันครั้งนี้ ผู้นำทั้งสองให้คำมั่นว่าจะกระชับความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ตลอดจนความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร และการท่องเที่ยว เป็นต้น รวมทั้งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมและประชาชน นอกจากนี้ หลังการหารือเสร็จสิ้นลง ผู้นำทั้งสองได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสารความร่วมมือทวิภาคีในด้านการลงทุน การเกษตร การสร้างเมือง และอื่น ๆ
ความร่วมมือจีน-แอฟริกาในยุคใหม่
จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนแอฟริกาเป็นทวีปที่มีจำนวนประเทศกำลังพัฒนามากที่สุด ดังนั้น ประสบการณ์ในอดีตที่มีร่วมกัน ตลอดจนจุดมุ่งหมายและเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน ทำให้จีนและแอฟริกาใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
ในระหว่างการประชุมความร่วมมือจีน-แอฟริกา (FOCAC) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนกันยายน 2561 ทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจสร้างประชาคมจีน-แอฟริกาที่มีอนาคตร่วมกันให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตลอดจนนำพาความสัมพันธ์และความร่วมมือจีน-แอฟริกาไปสู่ยุคใหม่
จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแอฟริกาเป็นเวลา 13 ปีติดต่อกัน ณ ปี 2564 และมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับแอฟริกาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5429 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 35.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์จีน
ในเดือนพฤศจิกายน 2564 รัฐบาลจีนได้ออกสมุดปกขาวเพื่อบันทึกความสำเร็จของความร่วมมือรอบด้านจีน-แอฟริกา และนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคตระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยจีนและแอฟริกายืนหยัดเคียงข้างกันทั้งในห้วงเวลาแห่งความสำเร็จและความยากลำบาก ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน
ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 10 ปีของหลักการภายใต้นโยบายแอฟริกาของจีน ที่นำเสนอโดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งประกอบด้วยความจริงใจ ผลลัพธ์ที่แท้จริง มิตรภาพ และความสุจริต ทั้งนี้ ในระหว่างการพบกับประธานาธิบดี อาลี บองโก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและแอฟริกาจำเป็นต้องเสริมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือให้มากกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากโลกกำลังพัวพันกับความท้าทายและวิกฤตมากมาย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นในจิตวิญญาณของมิตรภาพและความร่วมมือจีน-แอฟริกา พร้อมกับเน้นย้ำว่าจีนสนับสนุนเส้นทางการพัฒนาที่มีเอกลักษณ์และเป็นอิสระของแอฟริกา และยินดีที่จะมอบโอกาสใหม่ ๆ ให้กับแอฟริกาโดยอิงเส้นทางการพัฒนาใหม่ของจีนเอง เพื่อผลักดันให้ความร่วมมือจีน-แอฟริกากลายเป็นต้นแบบของความร่วมมือใต้-ใต้ และความร่วมมือระหว่างประเทศอื่นกับแอฟริกาต่อไป
https://news.cgtn.com/news/2023-04-19/China-Gabon-lift-relations-to-comprehensive-strategic-cooperative-partnership-1j8xbJYVR6w/index.html
วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=E87paaBCLgk